วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556

Power Bank :การคำนวน & เลือกซื้อ Power Bank : ชาร์จได้กี่ครั้ง

สำหรับท่านใดที่ต้องการเลือกซื้อแบตเตอรี่ สำรองนั้นคงจะมีคำถามในใจกันกว่า มันจะชาร์จ iPhone ได้กี่ครั้ง ชาร์จ iPad, ได้กี่เปอร์เซ็น % หลายคนโดนคนขายหลอกบ้าง หลายคนซื้อมาด้วยความสวยงามบ้าง วันนี้เราจะมารู้ถึงความจุของ Power Bank ว่าจริงๆ แล้วนั้นเป็นเช่นไร
คำนวณความจุกับรอบการชาร์จง่ายๆ
เนื่องจาก Power Bank จะมีค่า Loss (ศูนย์เสียพลังงาน) อยู่ที่ประมาณ 30% ซึ่งเสียไประหว่างการแปลงพลังงาน ในการ input และ output เป็นหลักการมาตรฐานของแบตเตอรี่สำรอง ซึ่งเราต้องจับค่าพลังงานที่ระบุไว้ใน Power Bank ไปหาร 30% กันซะก่อน ตัวอย่างเช่น 5,000 mah / 30% = 3500 mAh. และนำค่าที่ได้ไป หาร ค่าแบตเตอรี่ของ iDevice ของเรา ตัวอย่าง : 3500 mAh. / iPhone 4 : 1420 mAh = 2.46 รอบ ตัวเลขที่ได้บอกได้ถึง Power Bank : 5,000 mAh. สามารถชาร์ต iPhone 4 จนเต็ม 100% ได้ 2.46 ครั้ง (รอบ) นั่นเอง ดังนั้นค่า mAh ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งราคาแพงขึ้นเท่านั้น
ส่วนใครขี้เกียจคำนวณเราก็มีตารางคำนวณสำเร็จรูปมาให้ดู เพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกซื้อให้ง่ายขึ้น ดังนี้
 ที่มา สนุกดอทคอม
 ไม่ว่าจะเป็น Flash drive, Power bank และอื่นๆอีกมากมาย 
ติดต่อได้ที่
บริษัท : ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิสเทิน เวนิส
59/97 หมู่บ้านเดอะวอเตอร์เฮาส์ หลักสอง บางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรศัพท์ 02-404-0650 เบอร์โทรสาร 02-404-0650
เว็บไซต์ http://www.easterm-venice.com

วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

Power bank: มารู้จักกับ Power Bank (แบตสำรอง) กันดีกว่า

               ยุคหลัง ๆ มานี้เป็นยุคแห่งเทคโนโลยี ไม่ว่าไปที่ไหนก็ต้องมีคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือ หรือสมาร์ทโฟนกันอยู่เต็มไปหมด แต่สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์ IT เคลื่อน ที่ต่างๆ ก็ต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าเราใช้งานพวกอุปกรณ์สมาร์ทโฟนหนักๆ แล้ว แบตเตอรี่อาจจะอยู่ได้ไม่พอทั้งวัน  จึงได้มีผู้คิดว่าทำอย่างไรจะให้แบตเตอรี่ในอุปกรณ์พกพาใช้งานได้ตลอดทั้ง วัน ในที่สุดก็ได้ Power Bank (แบตสำรอง) ขึ้นมา
 
วิธีการใช้ Power Bank (แบตสำรอง)
Power Bank เหมือนเป็นแบตเตอรี่สำรองชนิดหนึ่ง โดยที่เราต้องทำการชาร์จไฟเข้าตัว Power Bank (แบตสำรองก่อน หลังจากนั้นเราถึงจะใช้งานมันได้ โดนวิธีใช้ก็เพียงแค่เสียบ สาย USB เข้าที่ตัว Power Bank (แบตสำรอง) หลังจากนั้นก็เสียบเข้าที่โทรศัพท์ หรือสมาร์ทโฟน (บางรุ่นต้องกดปุ่มตรงกลางเพื่อให้ทำงาน และปล่อยไว้เมื่อไม่ใช้งาน Power Bank ก็จะดับเอง) เพียงแค่นี้ก็จะสามารถชาร์จแบตเตอรี่ขณะอยู่นอกบ้านได้โดยที่ไม่ต้องหาปลั๊กใดๆ ให้วุ่นวายอีกต่อไป

 

จำนวน mAh ที่บอกไว้ทำอะไร
 
mAh คือ m = มิลลิ , A = แอมม์ ,h = hour (ชั่วโมง) ส่วนจำนวนที่จะบอกว่า Power Bank (แบตสำรองชิ้นนั้น ๆ มีความจุเท่าไหร่คือตัวเลขที่เค้าบอกด้านหน้า เช่น 2600 mAh แปลว่า Power Bank (แบตสำรอง) มีความจุ 2600 mAh เป็นต้น และถ้าถามต่อไปว่า Power Bank(แบตสำรอง) จะชาร์จสมาร์ทโฟนของเราได้กี่รอบ สมมติว่า แบตเตอรรี่ของเรา 2500 mAh แล้ว Power Bank (แบตสำรอง) ที่มีอยู่เป็น 2600 mAh

หลายๆ ท่านอาจจะคิดว่า เอา2600 – 2500 แปลว่าชาร์จได้ 1 รอบ แล้วเหลือ อีก 100 mAh จริงๆ แล้ว วิธีการคิด ไม่ได้คิดแบบนี้ครับ คือ Power Bank (แบตสำรอง) ก็จะมีการสูญเสียพลังงานด้วย ในขณะชาร์จประมาณ 30-40 เปอร์เซนต์ ซึ่งหมายความว่า Power Bank (แบตสำรอง) 2600 mAh จะชาร์จจริงได้อยู่ที่ 2600-30/100= 1820 mAh ซึ่งมาเทียบดูแล้ว ก็จะไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 2500 mAh ได้เต็มนั้นเอง (จะได้ประมาณ 70 เปอร์เซนต์เท่านั้น)

หมายเหตุ : การชาร์จ Tablet ก็จะมีการสูญเสียพลังงานมากกว่าโทรศัพท์ด้วย

ตัวเลข 2A , 1A คืออะไร

ตัวเลขพวกนี้เป็นตัวบ่งบอกว่า Power Bank (แบตสำรอง) ของเราสามารถจ่ายไฟได้เร็วแค่ไหน (ยิ่งตัวเลขมากยิ่งเร็ว) หมายความว่าถ้าแบตเตอรี่ที่เราใช้มีขนาดใหญ่อาจจะต้องใช้ Power Bank (แบตสำรอง) ที่มีขนาด 2A เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในการใช้ไฟ

วิธีการเลือกซื้อ Power Bank (แบตสำรอง)

ตอนนี้ Power Bank (แบตสำรอง) มีให้เลือกมากมายหลายหลายขนาดมากและจะเอา Power Bank (แบตสำรอง) ตัวไหนดีล่ะ คำตอบก็คือ เลือกตามความใช้งาน/ความสวยงาม เช่น ถ้าเราต้องการชาร์จ Tablet 1 เครื่อง เราควรเลือก Power Bank (แบตสำรอง) ที่มีขนาดพลังงาน ไม่ถึง 5000 mAh พอเวลาที่ต้องใช้ Power Bank (แบตสำรอง) อาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของ Tablet ตัวนั้นๆ ได้ ต้องเลือกที่มีขนาดใหญ่และมี ตัวจ่ายไฟ 2 A ด้วยเป็นต้น 

รู้ไว้จะได้ไม่โดนหลอก

รู้หรือไม่ว่า Power Bank (แบตสำรอง) ต้องมีขนาดและน้ำหนักที่เหมาะสมกับจำนวน mAh ที่เค้าบอกด้วยเช่นว่า ถ้ามีร้านค้าบอกว่า Power Bank (แบตสำรอง) ตัวนี้ 20,000 mAh แต่พอเช็คแล้ว ขนาดมันไม่ได้ใหญ่ขนาดนั้น และน้ำหนักก็เบามากแสดงว่า Power Bank (แบตสำรอง) ที่กล่าวอาจจะมีจำนวน mAh ที่ไม่ถึงตามที่เค้าบอกก็เป็นได้


วิธีที่เราจะเช็ค
Power Bank (แบตสำรอง) ของเรา นอกจากวิธีนี้แล้ว คือ
1. ต้องแกะเครื่องออกมาดูครับ ซึ่งผมคิดว่าคนทั่วไปไม่น่าจะแกะอยู่แล้วเพราะฉะนั้นอาจจะข้ามวิธีนี้ไปได้เลย
2. การคำนวณจากพลังงาน อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่า เราสามารถคำนวณพลังงานจริงจาก Power Bank (แบตสำรอง) โดยหักออกประมาณ 30 เปอร์เซนต์จากตัวเลขเต็ม ๆ เพราะฉะนั้นหมายความว่า เมื่อเราหักลบตัวเลขเหล่านั้น แล้วเราก็ลองเอามาชาร์จกับอุปกรณ์ของเราที่มี mAh บอกไว้แล้วลองทดสอบดูว่าได้จำนวนรอบถึงตามที่คำนวณไว้หรือเปล่า ถ้าไม่ถึงแสดงว่าอาจจะโดนหลอกแล้วก็เป็นไปได้


    เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกซื้อ Power Bank (แบจสำรอง) จากร้านที่น่าเชื่อถือนะครับ
 
 
ที่มา gadgetdoor ดอทคอม 
 ไม่ว่าจะเป็น Flash drive, Power bank และอื่นๆอีกมากมาย 
ติดต่อได้ที่
บริษัท : ห้างหุ้นส่วนจำกัด อิสเทิน เวนิส
59/97 หมู่บ้านเดอะวอเตอร์เฮาส์ หลักสอง บางแค กรุงเทพฯ 10160
เบอร์โทรศัพท์ 02-404-0650 เบอร์โทรสาร 02-404-0650
เว็บไซต์ http://www.easterm-venice.com

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2556

Power Bank:แบตเตอร์รี่สำรองไฟ Power bank คืออะไร?


แบตเตอร์รี่ที่เรียกว่า Power bank คือ อุปกรณ์จ่ายไฟสำรองให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ
จุดประสงค์ของสิ่งนี้ก็คือ เพื่อทำการชาร์ตให้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าของท่านใช้งานได้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุปกรณ์พกพาต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ แทบเลต เน็ตบุ๊ค โน๊ตบุ๊ค เครื่องเล่นmp3/mp4 กล้องดิจิตอล และเครื่องเล่นเกมส์พกพาอย่าง PSP PSVita  3DS NDS  Wii U portable และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Effect Guitar เครื่องดูดฝุ่นพกพา เป็นต้น หรือแบตเตอร์รี่ภายนอกนี้บางคนจะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า External Battery  โดยมากจะเรียกกันว่า Power bank

ยุคไซเบอร์นี้ แทบทุกคนเห็นว่า อุปกรณ์สื่อสารเป็นสิ่งที่จำเป็นในการใช้ติดต่อธุรกิจ ข่าวสารต่างๆ บางคนใช้เล่นเกมส์ อ่านข่าว ซื้อสินค้า หาลูกค้า ทำธุรกิจทางการเงินต่างๆมากมาย
หากจู่ๆอุปกรณ์ที่จำเป็นเหล่านี้ แบตเตอร์รี่หมด ทุกคนก็ต้องหาปลั๊ก หรือที่ชาร์ตไฟกันจ้าระหวั่น
บางคนเตรียมพร้อมหน่อย ซื้อแบตสำรองภายในมาเพิ่มอีกตัว ซื้อมาในราคาที่แพง แล้วก็ใช้ได้เฉพาะอุปกรณ์รุ่นของเราเท่านั้น แล้วต้องรีบชาร์ตแบตฯที่หมดไปแล้วอีกอันเผื่อทันที

เมื่อก่อนอาจจะเป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้ มีคนเริ่มใช้อุปกรณ์ตัวนี้ มาแทนการเปลี่ยนแบตภายในเมื่อหมดลง แถมทำให้การใช้งานไม่ติดขัด ไม่ต้องปิดมือถือ แล้วเปลี่ยนแบบอย่างนั้นอีกแล้ว

อีกทั้ง สิ่งที่เรียกกันว่า Power bank นี้ จำเป็นต่ออาชีพที่ต้องเดินทางบ่อยๆ อย่างอาชีพนักข่าว อาชีพพนักงานเซลแมน อาชีพไกด์ อาชีพที่เดินทาง ไปหาเที่ยวกับเพื่อนนอกบ้าน
ที่สำคัญ Power bank เริ่มมีบทบาทในชีวิตประจำวันเราในตอนนี้มากขึ้น และสะดวกยิ่งขึ้น

เคยคิดไหมว่า ถ้าบ้านเราน้ำท่วม ไฟดับ อุปกรณ์ Power bank จะชาร์ตเก็บไฟจากที่ไหน
คำตอบก็คือ แสงอาทิตย์ไงครับ อุปกรณ์นี้ยังมีแบบเก็บไฟจากแสงอาทิตย์ แม้ไฟดับทั้งประเทศ เราก็ยังมีไฟสำรองเก็บไว้ใช้ได้ หายห่วงเลยครับ

ที่มา siampowerbank.blogspot ดอทคอม

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2556

Power bank: เคล็ดไม่ลับ! วิธีการรักษา Power Bank ให้มีอายุยืน

วันนี้เรามาดูวิธีการทำให้ Power Bank สามารถใช้งานได้ยาวนาน ไม่เสื่อมเร็วหรือพังไวกว่ากำหนด
      1. เนื่องจาก
ปัจจุบันแบตเตอรี่ภายใน Power Bank เป็น Li-on จึงไม่ควรใช้ให้แบตเตอรี่หมดแล้วค่อยชาร์จ เพราะว่า การที่มีแรงดันเหลือน้อย จะทำให้สารในแบตเตอรี่ที่มีฤทธิ์เป็นกรดทำงาน ซึ่งจะทำให้แบตเตอรรี่มีอายุการใช้งานที่สั้นลง ควรให้เหลือไม่น้อยกว่า 20% (Power Bank ไฟแสดงสถานะ 1 -2 ดวง) ก็สามารถเริ่มนำไปรีชาร์ตไฟบ้านได้แล้วครับ

      2. หากเหลือเยอะ แล้วไปชาร์จแบตเสื่อมไหม สามารถชาร์จได้เลยครับ แต่หากเต็มแล้วควรถอดออก เพราะใน อุปกรณ์ทั่วๆ ไป ไม่มีรุ่นไหนที่ตัดไฟเวลาแบตเต็มจริงๆ ซึ่งระบบส่วนใหญ่จะทำหน้าที่เพียงแค่หยุดชาร์จ พอเวลาผ่านไปแบตก็จะถูกใช้ไปเองเพราะเมื่อเรายังเปิดเครื่องอยู่ตลอดเวลาก็ จะเหมือนกับว่าเราใช้งานเครื่องเราอยู่ ซึ่งจะทำให้เหมือนกับเป็นการชาร์จอยู่ตลอดเวลา ซึ่งทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น

      3. ไม่ควรเสียชาร์จไฟไป เล่นไปด้วย เพราะการคุยไป ชาร์จไป จะเกิดความร้อนสูงกว่าการคุยปกติอย่างเดียว ความร้อนก็เป็นเหตุให้แบตเสื่อมได้โดยง่าย

      4.ใช้ที่ ชาร์จให้เหมาะสมหรือใช้ตัวที่มีกำลังโวลท์/แอมป์ที่เหมาะสมกับ Power Bank (ใช้ตัวที่แถมมากับเครื่องนั่นแหละ อย่าไปซื้อของก๊อบของปลอมมาใช้ ถ้าไม่จำเป็นจริง)

      5. ไม่ควรเก็บ แบตสำรองไว้ในที่ร้อน เช่น การเก็บไว้ในรถยนต์ที่จอดตากแดด เพราะความร้อนจะทำให้แบตเสื่อมเร็วครับซึ่งทำให้แบตเสื่อมเร็วขึ้น

      6. ถ้าจำเป็นจะต้องเก็บแบตไว้เป็นเวลานาน โดยไม่ได้ใช้งาน ให้ชาร์ตไฟไว้ที่ประมาณ 40% ของความจุ แล้วเก็บไว้ในที่เย็นๆ จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้

      7. ไม่ควรทำแบตตก หรือ กระทบกระแทกแรงๆ นะครับ เพราะภายในอาจเสียหาย และอาจมีผลทำให้สารประกอบภายในรั่วไหล ทำให้ไม่ปลอดภัยกับการใช้งาน
ที่มา: เว็บไซต์ commy4u ดอทคอม

ได้ที่เว็บไซต์ http://eastern-venice.com